สรุปข้อมูลรถมือสอง Honda City 1300 cc. ปี 1996-1997 รถเก๋งเล็กมือสอง ราคาประมาณ 50,000 บาท เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจรถมือสองรุ่นนี้ โดยจะพยายามสรุปรายละเอียดเกี่ยวกับรถให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ ข้อมูลประกอบการตัดสินใจซื้อรถมือสองนั้นมีความสำคัญ เพราะรถยนต์มีราคาสูง ค่าซ่อมแพง ค่าบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายอื่นที่ตามมาก็สูงมากเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องศึกษาหาข้อมูลรถยนต์ที่ต้องการให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อ
สำหรับข้อมูลรถยนต์ Honda รุ่น City 1300 cc ปี 1996-1997 ผู้เขียนจะสรุปเป็นหัวข้อต่างๆ ดังนี้
สรุปข้อมูลรถยนต์มือสองรุ่นนี้
A. ยี่ห้อ รุ่น รถยนต์
รถรุ่นนี้จะมีคุณลักษณะต่างๆ เช่น
– Honda City ปี 1996-1997 เป็นรุ่นแรกที่นำมาขายในประเทศไทยเรา แต่รุ่นหลักของรถหรือ Generation จะเป็น Generation ที่ 3 บางคนจะเรียกว่า รุ่น Type s เครื่อง 1300 cc อายุรถตอนนี้ 22-23 ปี (ปัจจุบัน กันยายน 2019)
– รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 1300 cc. เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อเน้นใช้งานในเมือง หรือระยะทางใกล้ๆ เน้นประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าใช้จ่าย คล่องตัว หาที่จอดง่าย ในยุคนั้นจึงเป็นรถที่ได้รับความนิยม เพราะรูปทรงในขณะนั้นถือว่าสวย ดูดี- รถเล็ก เครื่องยนต์เล็ก เหมาะสำหรับคนโสดมาก ครอบครัวเล็กๆ ลูกยังเล็ก ไม่เหมาะผู้ใหญ่นั่งกันเต็มคัน อย่างมากไม่ควรเกิน 3 คน ไม่เช่นนั้นการเร่งแซงอาจจะลำบาก โดยเฉพาะรถเกียร์ออโต้
– รถยอดนิยม ยี่ห้อยอดนิยม อะไหล่ยังหาได้ มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์วางรุ่นอื่นได้ รถที่ลงประกาศขายยังมีหลายคันที่เลขไมล์ยังไม่ถึง 300,000 กิโลเมตร หากดูแลดี ใช้งานเกิน 500,000 กิโลเมตรได้สบายๆ
รุ่นย่อยของรุ่นนี้
1. Honda City 1300 cc รุ่น Li เกียร์ธรรมดา รุ่นนี้เป็นรุ่นราคาถูกที่สุด กระจกมือหมุน พวงมาลัยธรรมดา (แต่ไม่หนักมือ) เมื่อเป็นรถมือสองจะมีราคาถูกที่สุด
2. Honda City 1300 cc รุ่น Lxi เกียร์ธรรมดา รุ่นนี้ราคาสูงขึ้น กรจกไฟฟ้า พวงมาลัยพาวเวอร์
3. Honda City 1300 cc รุ่น Exi เกียร์ออโต้ เป็นรุ่นราคาแพงที่สุด เมื่อเป็นรถมือสองจะมีราคาสูงกว่า 2 รุ่น Li และ Lxi
B. ภาษี พรบ ประกันภัย
– รถยนต์มือสอง Honda City เครื่องยนต์ 1300 cc รุ่นนี้ รถมีอายุเกิน 10 ปี ภาษีเหลือครึ่งเดียว ภาษีต่อปีประมาณ 700 กว่าบาท- พรบ ประมาณ 600 กว่าบาท ต่อปี
– รวมภาษี และ พรบ แล้วประมาณ 1300 บาท ต่อปี
– ควรทำประกันชั้น 3 เพิ่มเติม เพื่อไว้รองรับ กรณีเกิดอุบัติเหตุ ชนคันอื่น และเป็นฝ่ายผิด จะได้มีเงินค่าซ่อมรถคันอื่น ส่วนรถตัวเองไม่ต้องซ่อม ซื้อใหม่คุ้มกว่า ไว้เป็นอะไหล่
C. เครื่องยนต์
– รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ 1300 cc รหัสเครื่องยนต์ D13B 1300 cc
– กำลังเครื่องยนต์ 95 แรงม้า
เนื่องจากรถมีอายุการใช้งานเกิน 20 ปี แล้ว เครื่องยนต์อาจแย่เต็มที ก็จะสามารถวางเครื่องรุ่นอื่นได้ เช่น
1. เครื่องรุ่นเดิม D13B 1300 cc
2. เครื่องยนต์ D15B 1500 cc วางได้เลย ไม่ต้องแปลงอะไร
3. ชอบแรงก็มีเครื่องยนต์ให้เลือก D15bB 130 แรงม้า ความเร็วทะลุ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แน่นอน
เครื่องยนต์ของ Honda มีให้เลือกเยอะมาก แต่จากที่สำรวจในท้องตลาด ยังมีบางคันที่ใช้น้อยเลขไมล์ยังไม่ถึง 300,000 กิโลเมตรซึ่งหากดูแลดี ใช้งานได้สบายๆ เกิน 500,000 กิโลเมตร ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรง เพราะเคยใช้มากถึงขนาดนั้น ก็ยังขับเดินทางไกลได้ แต่เน้นไปแบบเรื่อยๆ ไม่รีบ เครื่องยังแรง ไม่ได้แย่อย่างที่คิด เมื่อเทียบกับเลขไมล์ประมาณ 500,000 กิโลเมตร
D. อัตราบริโภคน้ำมัน
อัตราบริโภคน้ำมันกับการใช้งานในเมือง รถติด
1. การใช้งานรถรุ่นนี้ในเมือง ติดไฟแดงบ้าง ต้องชะลอรถหรือหยุดรถบ่อยๆ ทำให้เปลืองน้ำมัน ซึ่งรุ่นนี้จะกินน้ำมันในเมืองอยู่ประมาณ 9-12 กิโลเมตรต่อลิตร แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร จำนวนผู้โดยสาร รถเล็กหากบรรทุกผู้โดยสารเต็มคัน ก็จะกินน้ำมันมากขึ้น
อัตราบริโภคน้ำมันกับการใช้งานต่างจังหวัด
การใช้งานนอกเมือง ขับยาวๆ ถนนโล่งๆ ไม่มีไฟแดง รถไม่ติด ในความเร็วไม่เกิน 100 Honda city เครื่องยนต์ 1300 cc อาจจะประหยัดได้เกิน 18 กิโลเมตรต่อลิตร แต่หากโดยสารเต็มคันจะกินน้ำมันมาก เพราะเครื่องยนต์มีขนาดเล็ก โดยเฉพาะการชลอหรือหยุดติดไฟแดงบ่อยๆ ผู้โดยสารเต็มคันจะกินน้ำมันมาก ยิ่งขึ้นทางชัน ขึ้นเขา ขึ้นห้างจะยิ่งกินน้ำมันมาก
รถ Honda City เครื่องยนต์ 1300 cc เหมาะสำหรับใช้งานคนเดียว หรือสมาชิก 2-3 คน ลูกยังเล็ก กรณีนี้ประหยัดแน่นอน ถ้าเน้นบรรทุกผู้โดยสารเต็มคัน กินน้ำมันและอืดแน่นอน โดยเฉพาะเกียร์ออโต้
E. สภาพรถที่ลงประกาศขายในขณะนี้
1. รถสภาพเดิมมาตรฐานจากโรงงาน ด้วยจำนวนรถที่เหลืออยู่ไม่มากนัก รถสภาพเดิมๆ อาจจะหาได้ไม่ง่ายนัก แต่ก็ยังมีลงประกาศขาย ควรเลือกรถแบบนี้
2. รถปรับแต่ง เปลี่ยนเครื่องยนต์ แต่งล้อ ฯลฯ ต้องพิจารณาอะไหล่ที่ได้นำมาตกแต่ง หากผิดไปจากมาตรฐาน ยามมีปัญหา การหาซื้ออะไหล่จะทำให้เสียเวลา หรือไม่สามารถหาซื้อได้ หรือมีราคาแพง เช่น รถใช้ล้อขนาด 15 นิ้ว ราคายางจะแพงกว่าล้อขนาด 13 นิ้ว
บางคันอาจจะแต่งสเกิ๊ร์ตรอบคัน หากเกิดแตกขึ้นมา จะหาซื้อไม่ได้ เพราะทำขึ้นมาโดยเฉพาะ
F. ราคาซื้อขาย
ราคาซื้อขายในท้องตลาดขณะนี้ ที่ลงประกาศขายตามเว็บไซต์ต่างๆ จะอยู่ประมาณ 50,000 บาท ขึ้นไปหรือน้อยกว่านี้ แล้วแต่สภาพรถ เป็นรถที่ขายต่อง่าย ราคาซื้อขายทรงตัวแล้ว อยู่ประมาณนี้ตลอดไป ตามสภาพรถ สภาพรถยังดูดี ราคาเกิน 50,000 บาทสภาพแย่ ซื้อขายกันต่ำกว่า 50,000 บาท
1. ตัวอย่างราคา สภาพไม่ดีนัก เป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา บางคันซื้อขายกันต่ำกว่า 50000 บาท แต่หากมีสภาพดี ราคาสูงกว่านี้
2. รถสภาพดี ราคาประมาณ 50000-70,000 บาท โดยเฉพาะรุ่นแพงสุด เกียร์อัตโนมัติ แต่ทั้งนี้รถเต็นท์จะมีราคาสูงกว่า ในปีเดียวกันหลักหมื่นบาท เพราะได้รับการขัดสีฉวีวรรณ ทำให้ภายนอกดูสวยงามแล้ว มีต้นทุน จึงต้องบวกเพิ่มกำไร
รถยนต์มือสองรุ่นนี้ราคาไม่ตกอีกแล้ว ราคาซื้อขายทรงตัวอยู่ประมาณนี้ ขอให้รักษาสภาพรถให้ดี เวลาขายต่อไม่ขาดทุน เสียเงินเฉพาะค่าซ่อมบำรุง ภาษี พรบ และค่าน้ำมัน
G. อุปกรณ์เสริม ออพชัน
ในรุ่นต่ำสุด ราคาถูกที่สุด ก็คือ Li จะไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย เช่น พวงมาลัยพาวเวอร์, กระจกไฟฟ้า จะมีในรุ่น Lxiและ Exi แต่ก็เป็นข้อดี อุปกรณ์น้อย โอกาสเสียก็น้อยลง ปัญหาก็น้อยลง ประหยัดเงินค่าซ่อม แต่อาจจะไม่สะดวกสบาย อย่างแร็คพวงมาลัยพาวเวอร์ราคาสูงมาก
H. จุดเด่นรถยนต์มือสองรุ่นนี้
– เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน หาที่จอดง่าย
– ราคารถมือสองไม่แพง พอๆ กับรถมอเตอร์ไซค์
– ราคาขายต่อไม่ตก ซื้อขายง่าย
– อู่ทั่วไปสามารถซ่อมได้ อะไหล่หาง่าย อะไหล่ไม่แพง
– เป็นรถที่ตลาดนิยม
– กันชนแบบ 3 ชิ้น กรณีมีการชน ก็จะประหยัดค่าซ่อม เพราะการชนด้านหน้าและท้าย เป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง
I. จุดด้อยรถ ข้อเสียของรถ
– อายุมากแล้ว อาจมีผุ ต้องตรวจสอบให้ดี ตำแหน่งที่ผุหรือขึ้นสนิม ต้องไม่ใช่จุดสำคัญ
– เครื่องยนต์อายุมากแล้ว กำลังเครื่องลดลง การเร่งแซง ขับขึ้นเข้า ลงเขา อาจจะไม่ค่อยมีแรง โดยเฉพาะหากบรรทุกเต็มคัน
– รถเล็ก เครื่องยนต์เล็ก ไม่เหมาะกับการโดยสารเต็มคัน ขึ้นเขา ทางชัน หรือ เร่งแซงลำบาก รถไม่มีแรง
– กันชนแบบ 3 ชิ้น กรณีมีการชน และซ่อมไม่ดี กันชนหน้าจะไม่เสมอกับแก้มข้างทั้งสองด้าน
– ขับทางไกล ขึ้นเขา ทางชัน แซงลำบาก หากมีผู้โดยสารเต็มคัน จะกินน้ำมัน และไม่ค่อยมีแรง เพราะรถอายุมากแล้ว จึงเหมาะสำหรับขับแบบเน้นไปเรื่อยๆ ไม่รีบ
J. รุ่นนี้เหมาะกับใคร
– ผู้มีรายได้น้อย ซื้อรถในราคาประมาณ 50,000 บาท ซ่อมอย่างดีอีกประมาณ 30,000- 50,000 บาท ก็จะมีรถดี ไว้ใช้งานอีกหลายปี ขายต่อราคาก็ไม่ตกอีกแล้ว หากยังรักษาสภาพได้ดี
– คนโสด ไม่มีผู้โดยสารมากนัก
– ผู้ที่ต้องการรถไว้ใช้งาน อาจจะใช้บ่อย หรือไม่บ่อยก็ตาม โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำมัน หรือเงินหายไปเพราะราคารถที่ลดลงและค่าซ่อมบำรุง
– รถคันแรกในบ้าน รถประหยัดน้ำมันในบ้าน เผื่อเดินทางไปทำธุระ จ่ายตลาด ดีกว่ารถมอเตอร์ไซค์ แต่ไม่เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน ไปไหน ไปกันเต็มคัน
– ผู้ที่ต้องการรถไว้ใช้งานในระยะทางใกล้ๆ ในเมือง ที่ไม่ต้องการใช้ความเร็วมากนัก ใช้แบบไม่เสียดาย
– ผู้ที่ต้องการรถมือสองไว้ใช้งาน โดยเฉพาะคนโสด ไว้ใช้งานแบบไม่ต้องคิดอะไร แต่ต้องซ่อมให้อยู่ในสภาพดีเสียก่อน ลงทุนไม่เกิน100,000 บาท จากนั้นจะใช้ให้ฟังไปเลยอย่างมากก็หมดเงินไปแค่นั้น ต่างจากรถใหม่ป้ายแดง เงินหายไปหลายแสนบาท
K. ความนิยมรถรุ่นนี้
– รถรุ่นนี้ได้รับความนิยม เป็นรถตลาด คนนิยมใช้ ยังมีอะไหล่ อู่ทั่วไปก็นิยม ซ่อมง่าย ด้วยความที่เป็นรถยนต์ขนาดเล็ก แม้จะมีอายุมาก แต่ซื้อง่ายขายคล่องแน่นอน เพราะคนรายได้น้อยในประเทศไทยมีมากกว่าคนรวย และราคาที่พอๆ กับ Honda Wave แต่กันแดด กันฝนได้ จึงเป็นอีกทางเลือกของคนรายได้น้อย แต่รถต้องอยู่ในสภาพดี และเดิมๆ อย่าไปแต่งจนเละเทะ
L. รถคันแรก คันที่สอง รถสะสม
– รถคันแรกของบ้าน รถแบบนี้ควรมีไว้ติดบ้าน เผื่อเดินทางไปทำธุระใกล้ๆ ซึ่งบางครั้ง อาจจะเดินทางคนเดียว หรือไม่กี่คน แม้รถจะเก่ามากแล้ว แต่หากซ่อมบำรุงให้ดี ก็ใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหา
– รถคันนี้จะเป็นรถคันที่สองก็ดี ประหยัดอย่างนี้ มีแตจะแย่งกันใช้
– รถสะสมก็เข้าท่าเหมือนกัน เพราะเก็บไว้ ราคาไม่ตก ไม่มีคำว่าขาดทุน แต่ต้องมีที่จอดรถ เพื่อรักษาสภาพรถให้สวย ดูดี อยู่ตลอดเวลา เพื่อความเร็วและง่ายในการขายต่อ
M. ค่าใช้จ่ายการดูแลรถรุ่นนี้
– ค่าใช้จ่ายในการดูแลไม่แพง เพราะเป็นรถขนาดเล็ก ทั้งประหยัดน้ำมัน ถ้าติดแก๊สก็จะประหยัด มากขึ้น
– ประหยัดค่าใช้จ่าย ตัวอย่าง น้ำมันเกียร์ธรรมดาประมาณ 300 บาท เมื่อเทียบรถใหญ่ อย่าง Nissan Cefiro เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ 2800 บาท
– รถเล็ก ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง แต่ยกเว้น อุปกรณ์บางตัว อย่างแร็คพวงมาลัยพาวเวอร์ ราคาเกิน 3 หมื่นบาท เพราะเป็นอะไหล่หายากก่อนซื้อต้องตรวจสอบให้ดี ได้รถมาแล้ว ก็ต้องดูแลให้ดี สำหรับอุปกรณ์ตัวนี้
– รถอายุมากขนาดนี้ ยังไม่หมดสภาพ ซ่อมถึง ใจถึง เงินถึง ซ่อมให้เป็น ก็ใช้งานได้อีกหลายปี เดินทางไกลได้ ซ่อมแล้วเก็บไว้ใช้ก็ไม่เจ็บตัวเช่นกัน เพราะขายง่าย ราคาก็ไม่ตก
– รถรุ่นนี้ไม่ซับซ้อน ซ่อมง่าย ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้ ส่วนอะไหล่สามารถสั่งได้ตามร้านอะไหล่ใหญ่ๆ ในตัวจังหวัด ของแต่ละจังหวัด หรือที่สระบุรีอะไหล่ยนต์ จังหวัดสระบุรี มีแน่นอน ส่งทางรถตู้ หรือรถทัวร์ ไปรษณีย์ หรือ Kerry
การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศจะเข้าศูนย์ก็ได้ ส่วนอะไหล่อื่นๆ ให้ศึกษาก่อน แล้วหาซื้ออะไหล่เองตามร้านอะไหล่ใหญ่ๆ ในตัวจังหวัด แล้วจ้างอู่ให้เปลี่ยนอะไหล่อีกที ซ่อมแบบนี้จะช่วยประหยัดเงินเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว
N. ค่าซ่อมบำรุงเบื้องต้นหลังซื้อรถ
หากเป็นรถที่ไม่มีประวัติการซ่อมมาก่อน จะมีรายการต้องตรวจสอบหรือซ่อม เตรียมงบไว้ประมาณ 30,000 บาทขึ้นไป เพื่อซ่อมใหญ่และใช้กันยาวๆ อีกหลายปี ดังนี้
– การเปลี่ยนยางรถยนต์ รุ่นนี้เดิมๆ ใช้ยางขอบ 13 นิ้ว ประหยัดเพราะยางราคาถูกมาก อาจจะมีบางคันเปลี่ยนล้อเป็นขนาด 15 นิ้วโดยนำแม็ครุ่นอื่นมาใช้ เช่น Honda Jazz หลีกเลี่ยงรถที่ใช้ล้อใหญ่ๆ จะสร้างปัญหาในภายหลัง ราคายางแพงกว่า ใหญ่สุดแค่ 15 นิ้ว ก็พอแล้ว
– เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง กรองน้ำมันเครื่อง กรองอากาศ หม้อน้ำ ท่อน้ำ วาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ แบตเตอรี่ น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค-ครัชสายพานหน้าเครื่อง สายพานทามมิ่ง ซิลข้อเหวี่ยงหน้าเครื่อง ท้ายเครื่อง
– ต่อภาษี พรบ ประกันภัย
– แอร์ เติมน้ำยาแอร์
– ตัวถัง สีซีด มีผุหรือไม่ รายจ่ายส่วนนี้หลักหมื่นบาท ควรหลีกเลี่ยงห้ามซื้อ หรือรถทำสีก่อนขาย ทำสีไม่ดี ก็อย่าไปซื้อ สีซีดจาง แต่เป็นสีเดิมไม่เป็นไร เก่าแต่ทนทาน
– รถติดแกีส ไม่รู้สภาพของเครื่องยนต์ จะมีค่าซ่อมตามมา เพราะมีอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น ก็จะมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง รถแบบนี้ต้องหลีกเลี่ยง รถไม่ติดแก๊สมีขายหลายคัน แต่ส่วนใหญ่ที่ลงขาย ไม่ค่อยติดแก๊ส เพราะเดิมๆ ก็ประหยัดในเกณฑ์ที่รับได้
– ระบบขับเคลื่อนและบังคับเลี้ยว พวงมาลัยพาวเวอร์ ลูกหมากต่างๆ เพลาขับ ระบบเกียร์ ถ่ายน้ำมันเกียร์ ชิ้นส่วนในระบบเกียร์ แผนครัช หวีครัช
– ระบบไฟต่างๆ ล้างไดสตาร์ท เปลี่ยนถ่านไดสตาร์ท ตรวจสอบแบตเตอรี่
การซื้อรถยนต์สักคัน ให้คิดว่าเป็นการลงทุน อย่างรถรุ่นนี้ ก็คิดเสียว่า ลงทุนประมาณ 100,000 บาท ค่าตัวรถประมาณ 50,000 บาท อีก 50,000 บาท เป็นค่าซ่อมรถ หากใจถึงแบบนี้ ก็จะได้รถดีไว้ใช้งานอีกนาน เพราะรถยนต์นั้น แม้จะเก่าเพียงใด
แต่เมื่อเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ของแท้เข้าไป ก็จะสมบูรณ์ใกล้เคียงรถใหม่ โดยเฉพาะหากใจถึง กล้าทำเครื่อง ฟิตเครื่อง ด้วยแล้ว รับรองว่า ความประหยัดน้ำมันและความแรงจะได้ใกล้เคียงรถใหม่ เรื่องความประหยัดด้วยแล้ว ใกล้เคียงพวก Eco คาร์แน่นอน สำหรับรุ่นนี้
O. ปัญหาใช้งานประจำวัน
ด้วยเครื่องยนต์ที่เก่ามากแล้ว หากเน้นบรรทุกผู้โดยสารเต็มคันทุกวัน รถเล็ก เครื่องยนต์เล็กอย่างนี้ กินน้ำมัน และกรณีเดินทางไกลก็เช่นกัน การเร่งแซงอืดแน่นอน การขึ้นเขาลงเขา ทางชันก็อาการเดียวกัน แต่หากใช้งานคนเดียว ก็รับรองว่าไม่มีปัญหา
P. ปัญหาประจำตัวรถ
รถรุ่นนี้ ไม่มีปัญหาอะไร หากซ่อมอย่างดีแล้ว แต่ก็จะมีอะไหล่บางชิ้นที่มีราคาสูงมาก อย่างแร็คพวงมาลัยพาวเวอร์ หากรั่ว ต้องเปลี่ยนใหม่ ของแท้เบิกศูนย์ประมาณ 3 หมื่นบาท ก่อนซื้อต้องตรวจสอบให้ดี ส่วนปัญหาอื่นๆ ก็ไม่มีอะไรรบกวน
Q. อะไหล่ แหล่งอะไหล่
อะไหล่ยังสามารถหาซื้อได้ ตามร้านเชียงกง หรือลองสั่งที่ศูนย์ Honda หรือติดต่อที่ สระบุรีอะไหล่ยนต์ ให้ศึกษาก่อนจะซ่อมส่วนใดแล้วติดต่อซื้ออะไหล่ให้เรียบร้อย จากนั้นก็หาอู่เพื่อรับงานเปลี่ยนอะไหล่ การซ่อมแบบนี้ ช่างจะบวกเพิ่มค่าอะไหล่ไม่ได้ ก็จะประหยัดค่าอะไหล่เท่าตัว Honda City รุ่นนี้ยังหาอะไหล่ได้ไม่ยาก
R. อู่นอก ศูนย์ซ่อม เชียงกง
Honda city เป็นรถที่มีระบบการทำงาน เครื่องยนต์ ตลอดจนส่วนต่างๆ ที่ไม่ซับซ้อน ช่างทั่วไปสามารถซ่อมได้ ไม่จำเป็นจะต้องไปเข้าศูนย์ Honda หรืออู่ที่มีช่างที่เคยทำงานอยู่ศูนย์ Honda ได้ออกมาเปิดอู่เอง อู่เหล่านี้เป็นตัวเลือกที่แพง ค่าบริการแพงไม่ต่างจากศูนย์หรือแพงกว่า
S. การขายต่อ ราคาขายต่อ
รถ Honda City รุ่นนี้ ราคาทรงตัวแล้ว ไม่ลดลง ไม่ตกอีกแล้ว ราคาประมาณ 50,000 บาท สภาพแย่ ก็ถูกกว่านั้น หากสภาพดีก็แพงกว่านั้น ได้รถมาแล้ว รักษาสภาพให้เหมือนเดิม เมื่อถึงเวลาต้องขาย ก็จะได้ราคาเท่าเดิมหรือแพงขึ้น สำหรับรถสภาพสวย เล่นตัวได้
T. ราคาที่ลดลงในแต่ละปี
รถรุ่นนี้ราคาไม่ลดลงอีกแล้ว ยกเว้นแต่จะไม่ดูแล จนรถอยู่ในสภาพที่แย่ลง หรือแต่งรถจนเละเทะ ราคาตกแน่ ตรงกันข้ามหากดุแลดีสภาพสวย เน้นเดิมๆ ก็อาจจะขายได้ราคามากกว่าตอนที่ซื้อรถมา ซื้อเก็บไว้ใช้ ไม่ต้องกลัวเงินหาย สบายใจ
U. เว็บบอร์ด Facebook
ปัจจุบันจะมีเฟสบุ๊คกรุ๊บ ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับรถ อาจจะลองค้นหาในพันทิบ
V. รถยนต์อื่นทางเลือก คู่แข่ง
รถรุ่นอื่นที่เป็นคู่แข่งโดยตรงในขณะนั้นก็คือ Toyota Soluna ตัวแรก ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1500 cc 95 แรงม้าเช่นกัน แต่ปัจจุบันก็จะมีรถรุ่นอื่น อีกหลายรุ่นที่ราคาตกลงมา เช่น Honda City Type S หรือ Type Z ซึ่งใช้เครื่องยนต์ 1500 cc รถเหล่านั้น ก็เป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีสมาชิกในบ้านหลายคน ต้องการรถที่มีกำลังเครื่องมากขึ้น
ส่วนยี่ห้ออื่น ก็จะมี Toyota AE111 หรือรุ่น 3 ห่วง เครื่องยนต์ 1300 cc Toyota Soluna ตัวแรกสุด ใช้เครื่องยนต์ 1500 cc แต่แรงม้าเท่ากัน 95 แรงม้า มีรถให้เลือกเยอะมาก แต่ออพชั่นต่างๆ Honda City 1300 cc นั้นดีกว่า หากเน้นใช้งานคนเดียว Honda Cityประหยัดกว่า ซึ่งจะเติมน้ำมันเบนซิน 91 และแก๊สโซฮอลล์ 91 ในขณะที่ Soluna จะใช้กับเบนซิน 95 และแก๊สโซฮอลล์ 95 ซึ่ง Solunaในขณะนั้นขายดีมาก เรื่องอะไหล่จึงหาได้ง่ายกว่า เครื่องยนต์ใหญ่กว่า เหมาะกับสมาชิกโดยสารเต็มคัน
สิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจเลือกคันนี้ก็คือ ต้องดูสไตล์การใช้รถของตัวเอง ใช้งานคนเดียวเป็นหลัก ขับทางใกล้ ในเมือง คันนี้ประหยัดกว่า แน่นอน หากผิดไปจากนี้ มีผู้โดยสารเต็มคัน เดินทางไกลบ่อย ควรเน้นเครื่องยนต์ 1500 cc แต่หากใช้งานคนเดียว ขับรถแบบคนแก่ ไปเรื่อยๆ ไม่รีบ ซื้อคันนี้ไม่ผิดหวัง ประหยัดน้ำมันกว่า
W. สรุปความเห็นส่วนตัว
รถ Honda City รุ่นนี้ แม้จะมีอายุมากแล้ว แต่ยังหารถที่ใช้งานยังไม่มาก เครื่องยนต์ยังไม่ถึงกับแย่ได้สบาย ผู้เขียนเคยใช้มาก่อนเลขไมล์ขณะนั้นเกือบ 5 แสนกิโลเมตร แต่เดินทางไกล ขึ้นเขาใหญ่ ไม่มีปัญหา แต่เหมาะสำหรับการใช้งานคนเดียว และขับแบบไปเรื่อยๆ ไม่รีบ โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้เกียร์ออโต้ กำลังเครื่องจะลดน้อยถอยลง การบรรทุกเต็มคันมีปัญหาแน่ กำลังเครื่องอาจไม่พอ
หากได้รถในสภาพดี ไม่ผุ รุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเครื่องยนต์ของ Honda มีให้เลือกเยอะมาก สามารถเปลี่ยนไปวางเครื่องยนต์ 1500 cc ก็ย่อมได้ คนโสดแต่มีครอบครัวในอนาคต ไม่จำเป็นจะต้องขายรถก็ได้ แค่เปลี่ยนเครื่องก็พอ ก็จะใช้งานได้ไม่มีปัญหา เรื่องกำลังเครื่องยนต์ หรือไม่เช่นนั้นก็อาจจะฟิตเครื่องยนต์
ส่วนการใช้รถยนต์เพื่อเดินทางไกล ก็สามารถทำได้ Honda Wave เครื่องยนต์ 100 cc ยังเดินทางข้ามประเทศได้สบาย รถแบบนี้ก็ไปได้ เพียงแต่ ก็ต้องหยุดพักบ่อย เช่น ทุก 200-300 กิโลเมตร เป็นต้น แต่หากรถค่อนข้างสมบูรณ์ ก็ไม่เป็นปัญหา
รถรุ่นนี้ซื้อเก็บไว้ ราคาไม่ตกอีกแล้ว ขอเพียงรักษาสภาพให้ดี ไม่สนใจเรื่องภาพลักษณ์ว่าจะต้องเป็นรถใหม่ ไม่แคร์ชาวบ้านกับการขับรถรุ่นเก่า ก็จะมีรถดีไว้ใช้งานอีกนาน ขายต่อก็ไม่ขาดทุน หากไม่ได้ใช้รถยนต์บ่อยนัก แต่จำเป็นจะต้องมีไว้ติดบ้าน เผื่อไปห้าง โรงพยาบาล ทำธุระต่างๆ นานๆ ครั้ง รถแบบนี้ เป็นตัวเลือกที่ดี ดีกว่า ซื้อรถราคาหลายแสนมาจอดไว้ แล้วรอให้ราคารถตกลงมาเรื่อยๆ เงินหายไปหลายแสนบาท